Popular Posts

Tuesday, April 30, 2013

การลงทุนเปิดร้านถ่ายเอกสาร


การลงทุนเปิดร้านถ่ายเอกสาร
 
ธุรกิจถ่ายเอกสาร ลงทุน 120,000 บาท เปิดร้านได้เลย
เราคือมืออาชีพในธุรกิจร้านถ่ายเอกสาร รับจัดทำร้านถ่ายเอกสารให้บริการลูกค้าทั่วประเทศ ด้วยเงินลงทุนเพียง 120,000 บาท ท่านก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจถ่ายเอกสารได้ทันที บริการรวดเร็วทันใจ เปิดร้านได้ใน 3 วันเป็นอย่างช้า และด้วยเงินลงทุนที่ต่ำทำให้ท่านประหยัดค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆได้เป็นอย่างมาก เพราะอุปกรณ์ที่เราจัดให้มีครบครันพร้อมให้บริการลูกค้าในทุกรูปแบบเพื่องานถ่ายเอกสารระบบดิจิตอลครบวงจร
สนใจติดต่อ คุณโอ๊ต 0846046603และ0850061030
โดยรายละเอียดอุปกรณ์ที่จัดให้มีดังนี้
1.เครื่องถ่ายเอกสารยี่ห้อ CANON IR3320I ระบบดิจิตอลเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร multifunction สามารถ Print / Scan / Copy / Fax ,ความเร็ว ในการถ่ายเอกสาร 33แผ่น/นาที ,ความละเอียดในการถ่าย 1200 x 600 dpi ระดับความสีดำได้ 256 ระดับ ,สามารถถ่ายสำเนาเอกสารกระดาษ A5 – A3 ,ย่อ-ขยาย ได้ตั้งแต่ 25-800% ,มีอุปกรณ์ป้อมต้นฉบับอัตโนมัติ (RDF) ,ตลับป้อนกระดาษจุได้ 500 แผ่น 4ถาดและถาดป้อมมือจุกระดาษได้ 50 แผ่น ,สามารถกดจำนวนการถ่ายได้ตั้งแต่ 1-999 แผ่น ,สามารถใช้ถ่ายต้นฉบับ โดยใช้ฝาฝีดกระดาษ RDF โดยไม่ต้องเปิดถ่ายทีละแผ่นเป็นเครื่องถ่ายเอกสารระบบดิจิตอล อ่านต้นฉบับ ครั้งเดียวและสามารถถ่ายได้โดยหลอดภาพไม่ต้องสแกนอีก,หลอดส่องต้นฉบับเป็นแบบ หลอดฟลูออเรสเซ้นต์ถ่ายเอกสารได้ 2 หน้าภายในตัวเครื่องเอง,สามารถจัดเรียงเอกสารได้ไม่น้อยกว่า 99 ชุดระบบผงหมึกแห้ง สามารถถ่ายงานได้มากกว่า 15,000 แผ่น ที่น้ำหนักหมึก 500 gควบคุมการทำงานด้วยจอแบบสัมผัส LCD Display ,บอกตำแหน่งเวลากระดาษติดที่หน้าจอ LCD ซึ่งง่ายต่อการนำกระดาษออกจากเครื่องเมื่อกระดาษติด,แม่พิมพ์ภาพ ใช้งานได้ถึง 55,000 แผ่น ,สามารถถ่ายเอกสารต่อเดือนได้ถึง 120,000 แผ่นใช้เวลาอุ่นเครื่อง 29 วินาที,ความจุแรม 128 MB และ HDD 5.1GB (เก็บต้นฉบับได้ประมาณ 4,000 หน้า),น้ำหนักเครื่อง 80 kg
2.คอมพิวเตอร์จอ LCD 15” ,CPU 3.20 GHz ,RAM 512 , HD 60 GB , การ์ดจอ NVIDIA GeForce FX 5600 ,การ์ดเสียง CREATIVE “Sound Blaster Audigy” , DVD COMBO , ลำโพงซัพวูพเฟอร์ กล้องเว็บแคม
3.เครื่องปริ้นท์เตอร์ ( ติดแท้งค์เรียบร้อย ) เป็นทั้งสแกนเนอร์ แฟ็กซ์ และสามารถ ถ่ายเอกสารสี-ขาวดำ ได้ในตัว
4.แฟ็ก ( ใช้กระดาษ A4 )
5.เครื่องเข้าเล็มกระดูกงู ขนาด A4 พร้อมสันกระดูกงูขนาดต่างๆ กว่า 50 อัน
6.เครื่องเคลือบบัตร ขนาด A3 (สามารถเคลือบได้ตั้งแต่รูปขนาด 1 ซม. จนถึง ขนาด A3 )
7.แท่นตัดกระดาษ
8.โต๊ะทำงาน ,โต๊ะคอม ,โต๊ะเข้ามุม , เก้าอี้แบบเอนหลัง รวม 6 ตัว
9.ตู้กระจกโชว์สินค้าหน้าร้านแบบ3 ชั้น
10.พร้อมทำสติกเกอร์ประตูกระจกหน้าร้านให้เรียบร้อย( ในกรณีที่มีประตูกระจก )
11.ป้ายตั้งหน้าร้าน , ป้ายไวนิลหน้าร้าน , ป้ายไวนิลรายละเอียดงานในร้าน รวม 3 ป้าย
12.พร้อมเครื่องโทรศัพท์,โมเด็มเเลนด์ , Switch lan 5 ช่อง , สายแลนด์ ครอบชุด
13.กระดาษปกแบบต่างๆกว่า 30 แบบ
14.สันรูดขนาดต่างๆกว่า 100 อัน
15.กระดาษ A4 , A3 , F14 รวมกว่า 30 ริม
16.อุปกรณ์เข้าเล่มสำหรับงานเอกสารอีกหลายชุด
17.แผ่นใสถ่ายเอกสาร
18.พลาสติกเคลืบบัตรขนาดบัตรประชาชน – A4
19. แม็กเย็บสันขนาด 1.5 นิ้ว ( เล่มใหญ่ ) และแม็กขนาดต่างพร้อมลูกครบชุด
20.แล็กซีนเข้าเล่มกว่า 20 ม้วน
21.และอื่นๆอีกมากมาย
หมายเหตุ (ถ้าอยู่นอกเขตกทม.ต้องเสียค่าขนย้ายเพิ่ม5,000บาท )
โทร 0850061030 , 0846046603 คุณมีนาพรและคุณโอ๊ต
การเตรียมการทำธุรกิจถ่ายเอกสาร1. เตรียมตัวเอง
1.1 งานถ่ายเอกสารเป็นธุรกิจที่ให้บริการ จึงจำเป็นต้องมีใจรักด้านนี้ ไม่ใช่เป็นงานที่คอยออกคำสั่ง ส่วนใหญ่จะถูกลูกค้าสั่งมากกว่า
1.2 ไม่ย่อท้อง่ายๆ เป็นคนที่มีใจสู้กับปัญหา เพราะดังที่บอกแล้วว่าหัวใจในการทำธุรกิจด้านนี้ ก็คือเครื่องถ่ายเอกสาร ซึ่งแน่นอนที่สุดไม่ว่าเครื่องใหม่หรือเก่า มักประสบกับปัญหากระดาษติด หากเราไม่มีความรู้พื้นฐานหรือไม่รู้จักการแก้ปัญหา ก็ย่อมเจอกับอุปสรรคเดิมๆ แต่ถ้ายอมเสียเวลาสักนิดเรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาเอง เพื่อสะสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ สิ่งที่คิดว่ายาก อาจจะง่ายๆ ก็ได้
1.3 ต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่จะทำงานหนักอยู่สม่ำเสมอ เพราะว่างานเครื่องถ่ายเอกสารบางวันมีน้อย แต่อย่าลืมเป็นอันขาดว่าบางครั้งมีเข้ามาเป็นจำนวนมากนับหมื่นนับแสนแผ่นทีเดียว ดังนั้น จำเป็นต้องเตรียมตัวเองให้มีความพร้อมที่จะทำงานหนักอยู่เสมอ ซึ่งธุรกิจนี้มิใช่นั่งอยู่กับโต๊ะ แต่ยืนถ่ายเกือบตลอด และผู้ประกอบการที่ดีต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองให้เป็นก่อนที่จะว่าจ้างลูกน้อง ไม่เช่นนั้นแล้วจะประสบความสำเร็จได้ยากเหมือนกัน
1.4 ต้องเตรียมอุปกรณ์สิ้นเปลืองให้พร้อม อย่างที่บอกแล้วว่า งานถ่ายเอกสาร เป็นธุรกิจที่ไม่แน่นอน คือบางวันมีลูกค้าเข้ามาบริการน้อย แต่บางครั้งก็มาก ดังนั้น อุปกรณ์สิ้นเปลือง ไม่ว่าจะเป็นหมึก หรือกระดาษ จำเป็นต้องซื้อมาเก็บไว้ในปริมาณอย่างเพียงพอ ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ลูกค้าคอยนาน และไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปซื้อบ่อยครั้งมากเกินไป2. เตรียมงบประมาณเมื่อถามตัวเองได้แล้วว่า ชอบอาชีพนี้ ขั้นตอนต่อไปก็เตรียมงบประมาณ ซึ่งการลงทุนทำธุรกิจนี้ เริ่มตั้งแต่ 1 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจของเราเอง และสถานที่หากที่ทำเลไม่ดีนัก เราก็ลงทุนเปิดร้านถ่ายเอกสารขนาดเล็ก
ใช้เงินประมาณ 1.2-1.5 แสนบาทถ้าเป็นที่ทำเลดีมาก คือมีนักเรียน นักศึกษา อยู่หน้ากระทรวง หรือหน่วยงานราชการมีคนเดินผ่านไป-มาจำนวนมากๆ และเรามีเงินลงทุนสูง 1 ล้านบาท ก็ควรเปิดศูนย์ถ่ายเอกสารขนาดใหญ่ไปเลย โดยเพิ่มจำนวนเครื่องถ่ายเอกสาร ทั้งขาวดำและสีไม่ว่าจะเป็นร้านถ่ายเอกสารขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือใหญ่ ภายในร้าน นอกจากมีเครื่องถ่ายเอกสารแล้ว ควรมีเครื่องเข้าเล่ม เครื่องเคลือบบัตร เครื่องตัดกระดาษ เครื่องคอมพิวเตอร์ และกระดาษปกรายงาน ฯลฯ ไว้บริการด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า อีกทั้งช่วยเสริมรายได้ให้กับร้านได้อีกทางหนึ่งด้วย3. วางแผนกลยุทธ์ด้านการตลาดจริงๆ แล้วการเปิดร้านถ่ายเอกสาร ไม่จำเป็นต้องวางกลยุทธ์ด้านการตลาดมากนัก เพียงแต่มีป้ายบอกว่า เปิดบริการถ่ายเอกสาร เข้าเล่ม เคลือบบัตร ฯลฯ ก็สามารถเรียกลูกค้าเข้าร้านได้แล้วอย่างไรก็ตาม
หากมีการแข่งขันเกิดขึ้น จำเป็นต้องวางแผนกลยุทธ์ด้านการตลาด มิใช่นั้นแล้วระยะเวลาในการคืนทุนจะช้า และมีสิทธิ์เจ๊งได้เหมือนกันแต่ถ้าเรารักษามาตรฐานหรือคุณภาพงานถ่ายเอกสารไว้ได้อย่างสม่ำเสมอ โอกาสที่จะเจ๊งมีน้อยมาก เพราะอย่างที่ได้บอกแล้วว่าการบริโภคกระดาษแต่ละปีมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆนอกจากการรักษามาตรฐานงาน เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาเข้าร้านแล้ว เราจำเป็นต้องรักษาเวลานัดหมายให้แน่นอนด้วยกลยุทธ์ด้านการตลาด นอกจากเป็นฝ่ายตั้งรับแล้ว เราต้องวางแผนเชิงรุกด้วย กล่าวคือ ต้องเข้าไปแนะนำตัวเองกับหน่วยงานราชการหรือเอกชน ที่มีงานถ่ายเอกสารหรือเข้าเล่มจำนวนมากๆ ทั้งนี้เพื่อดึงงานเข้ามาในร้านนั่นเองการเปิดศูนย์ถ่ายเอกสารหรือร้านถ่ายเอกสาร จะคืนทุนช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับที่ทำเลเป็นสำคัญ มีหลายคนที่เปิดกิจการภายในมหาวิทยาลัยเพียง 1 เดือน ก็คืนทุนแล้ว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเครื่องถ่ายเอกสารและอื่นๆ ภายในร้านต้องมีประสิทธิภาพการใช้งานสูงด้วยและมีหลายคนที่ทำกิจการหรือธุรกิจตามเพื่อนๆ โดยขาดข้อมูลพื้นฐานและประสบการณ์ ทำให้ขาดทุนย่อยยับธุรกิจนี้ เติบโตแน่นอน ดังตัวเลขทิศทางการบริโภคกระดาษที่ได้กล่าวไปแล้ว แต่ขึ้นอยู่กับตัวเราว่ามีความพร้อมแค่ไหน ที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ
ข้อมูล จากอินเตอร์เน็ต

ลงทุนธุรกิจขายส่งเสื้อผ้า


ลงทุนธุรกิจขายส่งเสื้อผ้า
 
ทคนิคการทำธุรกิจเปิดร้านขายเสื้อผ้าให้ได้กำไร

ธุรกิจเปิดร้านขายเสื้อผ้า เป็นการค้าขายสินค้าอย่างหนึ่งที่ไม่ว่าใครๆก็อยากทำ เพราะธุรกิจนี้มีเสน่ห์คือ เป็นสินค้าที่ไม่บูดไม่เน่าวันนี้ขายไม่ออกก็เอามาขายอีกในวันรุ่งขึ้น เป็นสินค้าที่ซื้อง่ายขายคล่อง ลงทุนไม่มากก็ทำธุรกิจได้ และไหนจะความสวยงามของเสื้อผ้าแบบต่างๆอีก ทำให้ผู้ค้าขายมีความสุขที่จะได้อยู่กับสินค้าที่ชอบ
และเมื่อตัดสินใจที่จะทำการเปิดร้านค้าขายเสื้อผ้าแล้ว ก็ควรศึกษาให้ละเอียดถี่ถ้วนว่าจะเหมาะสมกับเราหรือไม่ และวันนี้ผมได้เอาเทคนิคการทำธุรกิจเปิดร้านขายเสื้อผ้าให้ได้กำไร มาฝากครับ
  • ขั้นแรกเราต้องรู้ว่ากลุ่มลูกค้าของคุณคือใคร เช่น เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เป็นวัยทำงานหรือวัยรุ่น หรืออาจจะขายทั้งสองแบบเลยก็ได้
  • หาทำเลให้ดีก่อนเปิดร้าน ถ้าแหล่งที่คนพลุกพล่านหน่อย ค่าเช่าก็จะอาจมีราคาแพง ส่วนผู้ที่มีทุนน้อยควรเริ่มจากการวางขายตามตลาดนัดไปก่อนและควรจะสำรวจดูว่าล็อคไหน ตลาดนัดที่ไหนคนพลุกพล่านมากที่สุด
  • หลังจากที่ได้ทำเลแล้ว ก็ควรตกแตงร้านให้ดูดีเพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้า และควรดูสถานที่ด้วยนะครับ ถ้าขายตามตลาดนัดก็เอาให้ดูดีก็พอไม่ใช้แต่งซะหรูเวอร์มันจะเป็นการสิ้นเปลืองต้นทุนโดยใช่เหตุ
  • หาแหล่งค้าส่งที่มีราคาถูกและมีคุณภาพ ในปัจจุบันก็คงไม่พ้นแถว ประตูน้ำ โบ๊เบ๊ จตุจักร
  • ควรเลือกซื้อสินค้ามาขายให้ตรงตามกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด เพื่อประหยัดต้นทุน เช่น เสื้อไซส์นี้คนนิยมมากก็สั่งมามาก ส่วนไซส์ไหนที่คนไม่ค่อยนิยมแต่ก็พอขายได้บ้างก็ให้สั่งมาแต่น้อยๆ
  • กำหนดราคาขายให้เหมาะสมเพราะราคาสินค้า ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการตัดสินใจของผู้ซื้อ
  • ต้องมีการบริการลูกค้าให้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใสมีอัธยาศัยดี เพื่อให้ลูกค้าประทับใจแลักลับมาแวะเวียนซื้อสินค้าที่ร้านอีกในอนาคต
การทำธุรกิจค้าขายเสื้อผ้าเป็นงานอิสระและสนุก ถ้าหากเราตั้งใจจริง ขยันและอดทน รับรองว่าจะต้องประสบความสำเร็จแน่นอนครับ

ทำธุรกิจนวดเเผนโบราณ


ทำธุรกิจนวดเเผนโบราณ
 
ปัจจุบัน ปัญหาเมื่อยขบ อาการปวดตามร่างกาย หรืออาการเครียด มักจะเกิดขึ้นกับหลายๆคนโดยเฉพาะเมื่อมีอายุมากขึ้น สาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น ปวดเมื่อยจากการนั่งทำ งานนานๆ คอตกหมอน หรือเครียดจากปัญหาเศรษฐกิจ สิ่งเหล่านี้ทำ ให้ธุรกิจนวดแผนไทยเกิดขึ้นมากมาย เพื่อบรรเทาปัญหาสุขภาพและคลายเครียด ธุรกิจนวดแผนไทยจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำ หรับผู้ต้องการมีธุรกิจของตนเอง
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ดังนี้
กลุ่มลูกค้าทั่วๆ ไป ได้แก่ บุคคลทั่วไปที่ต้องการผ่อนคลายความตึงเครียดจากการทำ งานจากชีวิตประจำ วัน ลูกค้ากลุ่มนี้จะใช้บริการนวดทั่วไปการวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย อาจจำ แนกตาม- อายุ โดยทั่วไปบุคคลที่นิยมนวดแผนไทยจะเป็นวัยกลางคนขึ้นไป- เพศ เพศชายมักจะนิยมใช้บริการมากกว่าเพศหญิง (ชาย 80% หญิง 20%)- รายได้ รายได้เป็นส่วนหนึ่งที่ลูกค้าใช้ตัดสินใจว่าจะรับบริการร้านนี้หรือไม่ ลูกค้าที่มีรายได้และฐานะดีมักจะใช้บริการในสถานที่หรูหรา
ส่วนลูกค้าที่มีรายได้ปานกลางลงไปก็อาจดูที่สถานที่ และอัตราค่าบริการเป็นหลัก- อาชีพ เช่น นักธุรกิจ กลุ่มข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มักใช้บริการในสถานที่ที่เป็นสัดส่วนเพราะกลุ่มนี้จะต้องการความสงบและความเป็นส่วนตัว- นักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี อเมริกา และแถบยุโรป กลุ่มลูกค้าที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น- คอตกหมอน- ไหล่ติด- ปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก- อัมพฤต อัมพาต ฯลฯ
ลักษณะการนวดแผนไทยแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ1. การนวดแบบยืด – ดัด ลักษณะการนวดแบบนี้ คือ การยืด – ดัดกล้ามเนื้อ – เส้นเอ็น –ผังผืด ให้ยืดคลาย2. การนวดแบบจับเส้น ลักษณะการนวดคือการใช้นํ้าหนักกดลงตลอดลำ เส้นที่กระหวัดไปตามอวัยวะต่างๆ การนวดชนิดนี้ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของผู้นวด ซึ่งได้ทำ การนวดมานาน และสังเกตถึงปฏิกิริยาของแรงกดที่แล่นไปตามอวัยวะต่างๆ3. การนวดแบบกดจุด ลักษณะการนวด คือ การใช้นํ้าหนักกดลงไปบนจุดของร่างกาย การนวดนี้เกิดจากประสบการณ์และความเชื่อว่า อวัยวะของร่างกายมีแนวสะท้อนอยู่บนส่วนต่างๆ และเราสามารถกระตุ้นการทำ งานของอวัยวะนั้น โดยการกระตุ้นจุดสะท้อนที่อยู่บนส่วนอื่นๆ ของร่างกาย2.การนวดฝ่าเท้า แบ่งเป็นก. นวดด้วยมือข. นวดเท้าด้วยไม้กดจุดค. นวดเท้าด้านใน – ด้านนอกด้วยมือง. นวดหลังเท้าด้วยมือจ. ใช้ไม้กดจุดฉ. นวดบริเวณเข่าด้วยมือช. นวดบริเวณหน้าแข้งและน่องด้วยมือซ. นวดบริเวณนิ้วเท้าฌ. กระตุ้นเท้าช่วงสุดท้ายญ. กระตุ้นเท้าก่อนแก่ผ้าพันเท้าออกและเช็ดครีม
3.การประคบสมุนไพรสดการประคบสมุนไพร หมายถึง การนำ เอาสมุนไพรทั้งสดหรือแห้งหลายๆ ชนิด โขลกพอแหลกและคลุกรวมกัน ห่อด้วยผ้า ทำ เป็นลูกประคบ จากนั้น นึ่งด้วยไอความร้อน แล้วนำ ไปประคบ4.การนวดเพื่อรักษา เป็นการนวดในกรณีที่ลูกค้ามีปัญหาสุขภาพ เช่น ข้อเท้าแพลง คอตกหมอน ข้อไหล่ติด เป็นต้น5.นวดนํ้ามัน การนวดนํ้ามันเป็นการนวดโดยใช้นํ้ามันสมุนไพร ชโลมบนร่างกายผู้ถูกนวด แล้วใช้เทคนิคการรีดและไล้เส้น ความร้อนจากนํ้ามัน ผนวกกับคุณสมบัติของสมุนไพร จะทำ ให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำ งานได้ดีขึ้น และคลายจากความตึงเครียด
การดำ เนินการ
การดำ เนินการของธุรกิจนวดแผนไทย แบ่งได้ดังนี้
-ขั้นตอนการให้บริการลูกค้า
-การจัดห้องนวด
-อุปกรณ์ที่ใช้
-การจัดจ้างพนักงาน
-สถานที่ขอรับการอบรมเพิ่มเติม
ดาวโหลด แผนธุรกิจ ฉบับเต็ม คลิกที่นี้
อ้างอิงจาก    ISMED
ที่มา http://www.thaismefranchise.com/?p=9128

การทำธุรกิจร้านขายติ่มซำ


การทำธุรกิจร้านขายติ่มซำ
 
การเปิดร้านขายติ่มซำ
        ติ่มซำ อาหารว่างที่ชาวจีนนิยมทานคู่กับการจิบน้ำชายามเช้า หรือทานเพื่อเรียกน้ำย่อยในมื้อเที่ยง และมื้อเย็น ถือเป็นวัฒนธรรมที่ชาวจีนปฏิบัติกันมาหลายชั่วอายุคน ติ่มซำจัดได้ว่าเป็นอาหารว่าง ที่ช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ ได้เป็นอย่างดี เพราะชาวจีนมักใช้เวลาเลือกสรรอาหารจานโปรดหลายสิบเมนู อย่างละเมียดละไม กับรสชาติ อันโอชะขณะร่วมสนทนากับเพื่อนที่รู้ใจ หรือแม้กระทั่งปรึกษาธุรกิจโดยมีติ่มซำ เมนูอร่อยเชื่อมท่ามกลาง การพูดคุย แต่เดิมติ่มซำรสเลิศจะมีบริการเฉพาะในภัตตาคารใหญ่ เท่านั้น ด้วยความที่ต้องการให้คนไทยได้ ลิ้มรสอาหารว่างที่เอร็ดอร่อยได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น
        คุณธีรภพ ศิรประภาธรรม จึงได้ก่อตั้ง “โชคดีติ่มซำ เรสเตอรองค์” สาขาบรรทัดทองขึ้นเป็นสาขาแรกในปี พ.ศ. 2543 โดยมีแนวคิดที่ ต้องการนำเสนอ ติ่มซำในรูปแบบใหม่เป็นเจ้าแรกในกรุงเทพฯ นั่นคือ ติ่มซำนึ่งสดๆ พร้อมด้วยบักกกุดเต๋รส กลมกล่อม หอมละมุนและเปี่ยมด้วยประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งเป็นสูตรลับที่ถ่ายทอดกันมาเฉพาะคนใน ตระกูลเท่านั้น ไม่นานนัก “โชคดีติ่มซำ เรสเตอรองค์” ก็ได้กระแสตอบรับดี เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง จากผู้บริโภคทุกกลุ่ม วัยรุ่น คนหนุ่มสาว วัยทำงาน ไปจนถึงกลุ่มครอบครัว นักธุรกิจ ฯลฯ ต่างกล่าวขาน ถึงความสด สะอาด ความพิถีพิถัน รวมถึงเมนูอร่อยที่มีให้เลือกหลากหลายกว่า 60 เมนู และจุดเด่นที่สำคัญอีกประการที่ทำให้ “โชคดีติ่มซำ เรสเตอรองค์” แตกต่างจากคู่แข่งที่เด่นชัดก็คือ การเปิดให้บริการแบบ 24 ชั่วโมง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบทุกกลุ่ม
        ไม่ว่าจะต้องการอาหารแบบอยู่ท้อง หรือรองท้องเบาๆ ก่อนเข้านอน นอกจากนี้ “โชคดีติ่มซำ เรสเตอรองค์” ยังได้รับความสนใจจากนักธุรกิจติดต่อขอซื้อ ตลอดจนสมัครร่วมเป็นร้านสาขา จนถึงขั้นต้องขยายสาขาออกไป ได้อย่างรวดเร็ว โดยมีจำนวนสาขาทั้งหมด 24 สาขา เป็นสาขาที่บริษัทฯ ดำเนินกิจการเอง 9 สาขา และเป็นสาขาเฟรนไซส์ 15 สาขา ครอบคลุมย่าน ที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน เพื่อลูกค้าได้รับการบริการอย่างสะดวกสบายและทั่วถึงทุกจุดบริการ
1.สิ่งที่จะได้รับจากการลงทุนเบื้องต้นคืออะไร
 ร้านที่ได้รับการตกแต่งเหมือนร้านต้นแบบ
 วัสดุ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในร้านครบชุด
 ป้ายชื่อร้าน ในช่วงเปิดร้าน
 โปรแกรมการโฆษณา ประชาสัมพันธ์และการตลาด
 การฝึกอบรมพนักงาน
 ระบบการสนับสนุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
2.ระยะเวลาการตกแต่งและเปิดร้าน
 ใช้ระยเวลาประมาณ 1.5-3 เดือนในการตกแต่งร้านเพื่อเปิดดำเนินการ
3.มีการกำหนดจำนวนขั้นต่ำในการซื้อสินค้าหรือไม่ จำนวนเท่าไหร่
 ไม่มี เพราะธุรกิจเราไม่ใช่ธุรกิจค้าส่งที่ต้องการขายสินค้าปริมาณมากๆ แต่เราเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่ต้องการ ให้แฟรนไชส์ซีทุกท่านได้รับเฉพาะสินค้าที่เหมาะสมในการจำหน่ายให้กับ ลูกค้า
4.ทางบริษัทฯ ช่วยเหลือในการแนะนำ และ เลือก Location ให้ด้วยหรือไม่
 ใช่ เรามีทีมผู้ชำนาญที่จะแนะนำการเลือกทำเลที่เหมาะสมกับธุรกิจโชคดีติ่มซำให้กับท่าน และหากจำเป็นเราสามารถช่วยเป็นตัวแทนในการเจรจาต่อรองเรื่องค่าเช่าให้กับท่าน และมีทำเลพื้นที่ที่เหมาะสมอีกช่องทางให้เลือก
5.ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมกับธุรกิจควรเป็นเท่าไหร่
 พื้นที่ที่เหมาะสม ได้แก่ อาคารพาณิชย์ 2 คูหา หรือมีพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าไม่ต่ำกว่า 100ตรม.
6.ทางบริษัทฯ ช่วยจัดหาพนักงานให้ด้วยหรือไม่
 ใช่ หากท่านจำเป็น (โดยปกติแฟรนไชส์ซีจะเป็นผู้จัดหาพนักงานเอง)
7.ระยะเวลาในการฝึกอบรม
 ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือนในการอบรมที่สำนักงานใหญ

ขั้นตอนการลงทุนเปิดร้านสปา


ขั้นตอนการลงทุนเปิดร้านสปา
 
ส่วนตัวผมคิดว่าเปิดเเล้วลูกค้าติดเงินทองใหลออกมาจากก๊อกเลยทีเดียวเลยหละครับ
การลงทุนทำธุรกิจใดๆก็ตาม ผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจนั้นให้ดีเสียก่อน ทั้งยังต้องสำรวจความพร้อมในการทำธุรกิจของตนเองด้วย เพราะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะบอกให้ทราบถึงความสำเร็จหรือความล้มเหลวของธุรกิจที่คิดจะทำ
หลายคนอาจมีคำถามเกิดขึ้นว่า…ทำไมเราต้องสำรวจความพร้อมก่อนทำธุรกิจ?
เหตุผลหลักที่สามารถอธิบายได้ก็คือ เพื่อที่ผู้สนใจจะได้ทราบถึงข้อจำกัดของตนเอง หากค้นพบจุดอ่อนหรือข้อจำกัดในด้านใด ก็ยังพอมีเวลาและโอกาสที่จะทำการปรับปรุงจุดอ่อนนั้นก่อนลงมือทำธุรกิจจริงๆ
ก่อนตัดสินใจก้าวเข้าสู่ธุรกิจสปา ผู้สนใจควรสำรวจความพร้อมในการเป็นผู้ประกอบการของตนเองก่อนเป็นอันดับแรก ดังนี้
มีความรู้และความสนใจในเรื่องสุขภาพ
หากคิดจะทำธุรกิจสปา ผู้ประกอบการควรมีความรู้และความเข้าใจในธุรกิจสปา เช่น การออกแบบสปา การจัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในสปา การคิดเมนูสปา เทคนิคการนวดแบบต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ผู้ประกอบการควรเป็นผู้ที่มีความนใจในการดูแลรักษาสุขภาพ ตลอดจนชอบใช้บริการสปาตามสถานที่ต่างๆ
มีความมุ่งมั่น สร้างสรรค์ไอเดียแปลกใหม่
ความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงในการทำธุรกิจ จะเป็นแรงผลักดันให้ผูประกอบการสามารถพิชิตปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ความมุ่งมั่นใจการทำธุรกิจจะทำให้ผู้ประกอบการมีพลังในการคิดสร้างสรรค์หรือพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการให้มีความแปลกใหม่ โดดเด่น แตกต่างจากคู่แข่ง และสามารถนำความแตกต่างนั้นมาสร้างเป็นจุดขายของธุรกิจได้
มีเงินลงทุน
การทำธุรกิจใดๆก็ตาม ถ้าผู้ประกอบการปราศจากเงินลงทุน หรือมีเงินลงทุนไม่เพียงพอ อาจทำให้ธุรกิจนั้นไม่สามารถขับเคลื่อนไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้ ธุรกิจสปามีรูปแบบและขนาดของการลงทุนที่แตกต่างกัน ถ้าต้องการทำธุรกิจสปาขนาดใหญ่ ต้องใช้เงินลงทุนสูงถึง 10 ล้านบาทขึ้นไป หากทำธุรกิจขยาดกลาง ก็ต้องใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท  ธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากเช่นนี้ การจัดสรรเงินลงทุนจึงเป็นเรื่องสำคัญ ผู้ประกอบการบางรายอาจลงทุนโดยการจัดร่วมหุ้นกับสมาชิกในครัวเรือนหรือเพื่อนๆ หรือขอกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างๆ ในกรณีที่ผู้ประกอบการลงทุนโดยขอกูเงินจากสถาบันการเงิน ความคำนึงถึงความสามารถของตนเองในการชำระเงินคืนด้วย
มีใจรักในงานบริการ
สปาเป็นธุรกิจประเภทให้บริการ ผู้ประกอบการควรมีความพร้อมและมีใจรักในการให้บริการ ตลอดจนมีลักษณะของการเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์และอัธยาศัยดี เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความประทับใจให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีก
การที่เรามีความคิดฝันในการทำธุรกิจนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การที่จะทำให้ฝันเป็นจริงนั้น เราต้องพร้อมที่จะมุ่งไปสู่บันไดแห่งความสำเร็จ ต้องรู้จักการกำหนดเป้าหมายในชีวิต ทั้งยังต้องลงมือทำสิ่งนั้นอย่างเต็มกำลังและความสามารถ เพื่อให้ความฝันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา และต้องรู้จักการสร้างแรงจูงใจเพื่อกระตุ้นให้เราก้าวไปสู่ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ
นานาทัศนะจากผู้ประกอบการธุรกิจสปา
คุณสมบัติประการหนึ่งของผู้ที่จะทำธุรกิจสปาให้ได้ดีนั้น ผู้ประกอบการควรเป็นผู้ที่มีความชอบ หรือหลงไหล และรักที่จะใช้บริการสปาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ประสบการณ์เกี่ยวสปาตรงนี้ผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้กำหนดรูปแบบสปาในแบบที่ตนเองต้องการได้ เมื่อคิดจะทำธุรกิจสปาของตนเอง เพราะจะทำให้ทราบทั้งจุดดี จุดด้อยของสปาแต่ละแห่งที่เคยใช้บริการ จุดที่สร้างความประทับใจจุดที่ควรจะปรับปรุงแก้ไข ตลอดจนรูปแบบการให้บริการ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด ให้กับผู้ใช้บริการ

การเปิดร้าน 7-Eleven ต้องทำอย่างไร


การเปิดร้าน 7-Eleven ต้องทำอย่างไร
 
 
 
 
1. ต้องมีสถานที่ทำเลเป็นของตนเองหรือไม่
ไม่จำเป็นต้องมีสถานที่เป็นของตนเอง ในรูปแบบการลงทุนที่เป็นแฟรนไชส์ เซเว่น-อีเลฟเว่นผู้สนใจลงทุนสามารถเลือกร้านสาขา ที่ เซเว่น-อีเลฟเว่น กำลังจะเปิดดำเนินการหรือเปิดดำเนินการแล้ ว แต่ในกรณีที่ผู้สนใจลงทุนมีทำเลเอง เซเว่น-อีเลฟเว่น จะสำรวจวิเคราะห์ทำเลให้โดยไม่ต้องเสียค่า ใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
 
 
2. จำเป็นต้องเปิดร้าน 24 ชั่วโมงหรือไม่
จำเป็นต้องเปิด 24 ชั่วโมง เนื่องจาก เซเว่น-อีเลฟเว่น เป็นธุรกิจประเภทร้านสะดวกซื้อ (Convenience Store) จึงต้องอำนวยความสะดวกทุกๆ ด้าน ทั้งสินค้า,สถานที่ ,เวลา , และการบริการที่กระชับและทันสมัย
 
 
 
3. จำเป็นต้องอยู่ดูแลร้านด้วยตนเองหรือไม่สามารถจ้างคนอื่นบริการได้หรือไม่
จำเป็นครับ ถือว่าเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดในการได ้รับการคัดเลือกจากบริษัทเพราะ เซเว่น-อีเลฟเว่นเล็งเห็นว่าร้าน เซเว่น-อีเลฟเว่น จะมีมาตรฐานร้านที่ดี รวมถึงการบริหารร้านอย่างประสิทธิภาพ จำเป็นที่เจ้าของร้านจะต้องทำหน้าที่ เป็นผู้จัดการร้านด้วยตนเองอายุสัญญา
4.ถ้าไม่มีประสบการณ์ด้านค้าปลีกหรือธุรกิจประเภทนี้มาก่อนจะ ประกอบธุรกิจร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นได้หรือไม่
กว่า 70 % ของแฟรนไชส์ซี่ทั้งหมด ก็ไม่ใช่คนที่เคยทำธุรกิจหรือไม่ประสบการณ ์มาก่อน ประกอบด้วยหลากหลายอาชีพ ทางเซเว่น-อีเลฟเว่น มีกระบวนการฝึกอบรมในหลักสูตรด้านค้าปลีกท ี่มีระบบ เพื่อให้ความรู้และทักษะการประกอบธุรกิจ ก่อนเปิดร้านจริง รวมทั้งมีทีมงานที่ปรึกษาร้านคอยให้คำปรึก ษา
5. เจ้าของร้านต้องใช้เวลาดูแลร้านมากน้อยขนาดไหน
ขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารร้านของแ ต่ละท่านแต่โดยทั่วไปต้องอยู่ร้าน เกือบทุกวัน โดยเฉพาะช่วงเปิดร้านใหม่ๆอาจใช้เวลาค่อนข ้างมาก แต่ลดลงถ้าประสบการณ์มากขึ้น ดังนั้นท่านที่ตัดสินใจเข้ามาในธุรกิจนี้ต ้องคิดว่านี่คือ ธุรกิจหลักที่จำเป็นต้องอาศัยการทุ่มเทสูง เพราะความรับผิดชอบ 24 ชั่วโมง
6. เซเว่น-อีเลฟเว่นมีการพิจารณาคัดเลือกคนดำเนินการอย่างไร
เรามีขั้นตอนในการคัดเลือกหลายขั้นตอนในกระบวนการคัดเลือก ซึ่งเริ่มต้นจากให้ข้อมูลพื้นฐาน ด้านการลงทุนการดำเนินการจัดการบริหาร การพิจารณาผู้ดำเนินการ ขณะเดียวกันก็ยังมีการฝึกอบรมการปฏิบัติงา นทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ โดยลงฝึกปฏิบัติงานในร้านจริง จนถึงการบริหารควบคุมค่าใช้จ่าย และมีการประเมินผล เมื่อผ่านตามเกณฑ์ที่บริษัทกำหนดจึงมีการเ ซ็นสัญญาเพื่อเปิดร้าน รวมระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 เดือน กลับไปที่คำถาม
7. กรณีเปิดร้านแต่ไม่มีเงินลงทุนจะสามารถทำธุรกิจได้หรือไม่
สามารถทำได้เนื่องจากมีโครงการสินเชื่ออัตราพิเศษเจ้าของร้านแฟรนไชส์ โดยมีสินเชื่อให้บริการจากธนาคารทั้ง 3 แห่งคือ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารนครหลวงไทย และธนาคารกสิกรไทย
สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ
1.อุปกรณ์การขายและสินค้า
2.ระบบบำรุงรักษาอุปกรณ์
3.ระบบการขนส่งสินค้า
4.วางแผนการตลาดส่งเสริมการขาย
5.ดูแลและให้คำปรึกษา
การสนับสนุนจากทางบริษัท
1. การลงทุนอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ
 2. การตกแต่งร้านและปรับปรุงร้านค้า
 3. การลงทุนสินค้าให้ตลอดอายุสัญญา
 4. การให้ความรู้ และเทคนิคการบริหารการจัดการร้านค้า โดยการให้การอบรมทั้งภาคทฤษฎีและ ภาคปฏิบัติ
 5. การให้บริการในด้านต่าง ๆ ตลอดอายุสัญญา ดังนี้ - การจัดส่งเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ไปช่วยเหลือในหน้าที่ต่าง ๆ ในช่วงเริ่มต้นดำเนินกิจการ - การส่งเจ้าหน้าที่ ไปช่วยแนะนำให้คำปรึกษา แก้ปัญหาต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ หรือ แล้วแต่กรณีที่ได้รับการร้องขอ - การจัดส่งสินค้าที่มีประสิธิภาพและมีคุณภาพ อย่างสม่ำเสมอ - การช่วยตรวจสอบคลังสินค้าคงคลัง - การช่วยตรวจสอบมาตรฐานร้านค้าในด้านต่าง ๆ - การแนะนำความรู้และเทคนิคที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อการพัฒนาปรับปรุงร้านให้ดีขึ้น - การโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่าง ๆ และการจัดรายการส่งเสริมการขายอย่างสม่ำเสมอตลอดไปตามแผนกำหนดของบริษัทฯ - อื่น ๆ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขติดต่อ 0-2711-7800
ที่มา  http://www.7eleven.co.th

การเปิดร้านเช่าพระเครื่อง


การเปิดร้านเช่าพระเครื่อง
 
ส่วนตัวเเล้วเท่าที่เห็นมานะครับ ส่วนใหญ่ที่มาเปิดๆกันเนี่ยมีเเต่พระไม่ค่อยมีชื่อครับผมก็ไม่รู้ว่า อยู่กันได้ยังไงกันครับ นับถือเลยครับ เเต่อย่างว่าของพวกนี้ต่างคนต่างคิดกันครับ
 
บทความน่าสนใจครับ
 
ความเฟื่องฟูและซบเซาของ วงการพระเครื่อง นั้นค่อนข้างจะผูกติดหรือไปในทิศทาง เดียวกันกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ดังนั้นวงการพระเครื่อง-ตลาดพระเครื่อง จึงได้รับผลกระทบอย่างมาก บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด วิเคราะห์ไว้ว่า ในช่วงเกิดวิกฤติเศรษฐกิจใน พ.ศ. ๒๕๔๐ ซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายประการในวงการพระเครื่อง กล่าวคือ ราคาพระเครื่องที่มีแนวโน้มลดลงอย่างมากในช่วงพ.ศ. ๒๕๔๐-๒๕๔๔ โดยลดลงประมาณร้อยละ ๔๐-๕๐ ส่วนพระเครื่องยอดนิยมและพระเบญจภาคีนั้นราคาลดลงเพียงร้อยละ ๑๐-๒๐
 
สำหรับบรรดาแผงพระหรือสถานที่เช่าพระ ตลาดพระนั้น ลดจำนวนลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะบรรดาแผงพระประจำจะเลิกกิจการไปบางส่วน คงเหลือแต่บรรดาผู้ที่อยู่ในวงการเป็นเวลานานหรือผู้ที่สามารถปรับตัวอยู่ รอดได้ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามจำนวนแผงพระจรเพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากมีคนที่ตกงานส่วนหนึ่งนำพระเครื่องที่สะสมไว้ออกมาให้เช่า อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปี ๒๕๔๕ เป็นต้นมาวงการพระเครื่องเริ่มฟื้นตัว และจะเห็นได้อย่างชัดเจนใน พ.ศ. ๒๕๔๖ ว่า ตลาดพระเครื่องวงการพระเครื่องเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะเฟื่องฟูอีกครั้งหนึ่ง โดยจะเห็นได้จาก ราคาพระเครื่องเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การโฆษณาประชาสัมพันธ์ในการสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคล รวมทั้งการจัดประกวดพระเครื่องที่เกิดขึ้นกันอย่างมากมาย
 
ขณะเดียวกันธุรกิจแผงพระเครื่อง ตลาดพระ ที่เริ่มมีผู้คนคึกคักมากขึ้น และบรรดาผู้ประกอบธุรกิจแผงพระเริ่มขยายธุรกิจมากขึ้น โดยการเปิดกิจการในหลายพื้นที่ รวมทั้งยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่มีนักลงทุนชาวต่างประเทศหันมาสนใจเช่าพระเครื่องและวัตถุมงคลจากไทยเพื่อนำไปให้เช่าต่อสำหรับผู้ที่สนใจพระเครื่อง และวัตถุมงคลของไทยในต่างประเทศ ส่งผลให้ธุรกิจ “ตลาดพระเครื่อง”และหลากธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีเม็ดเงินหมุนเวียน คล่องตัวมากขึ้น
 
พ.ศ. ๒๕๔๖ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดสถานการณ์ในวงการพระเครื่องไว้ว่า มีเม็ดเงินในธุรกิจพระเครื่องและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องสูงถึงเกือบ ๑ หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจแล้วเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ ๔๐ และธุรกิจ ตลาดพระ เหล่านี้ยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจ โดยคาดว่าจะยังมีอัตราขยายตัวเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ ๑๐-๒๐ ต่อปี
พ.ศ. ๒๕๔๗ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้คาดสถานการณ์ ตลาดพระในวงการพระเครื่องไว้ว่า ราคาพระเครื่องมีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพระชุดยอดนิยมปรับราคาขึ้นถึงร้อยละ ๔๐ และมีความต้องการเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้ขายก็ไม่สามารถหาของมาให้ลูกค้าได้ตามความต้องการ เนื่องจากในปัจจุบันพระชุดยอดนิยมได้หายไปจากสนามพระ ทำให้พระเครื่องระดับรองๆ เช่น พระชินราชอินโดจีน (พ.ศ. ๒๕๔๘) ของวัดสุทัศน์ พระเครื่องเมืองกำแพงเพชรพิมพ์นาง เป็นต้น หรือพระเครื่องของบรรดาเกจิอาจารย์ที่มีประสบการณ์อัศจรรย์ปรากฏอยู่ตามหน้า หนังสือพิมพ์อยู่เนืองๆ เช่น หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เป็นต้น
พ.ศ. ๒๕๔๘ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดสถานการณ์ในวงการพระเครื่อง”ตลาดพระเครื่อง”ไว้ว่า มีเม็ดเงินในธุรกิจพระเครื่องและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับตลาดพระสูงถึงเกือบ ๒ หมื่นล้านบาท และธุรกิจตลาดพระเหล่านี้ยังมีโอกาศเติบโตอย่างต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจ โดยคาดว่าตลาดพระเครื่องจะยังมีอัตราขยายตัวเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ ๑๐-๒๐ ต่อปี
พ.ศ. ๒๕๔๙ ต่อเนื่องถึงพ.ศ. ๒๕๕๐ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดสถานการณ์ในวงการพระเครื่องไว้ว่า มีเม็ดเงินในธุรกิจพระเครื่องและธุรกิจ”ตลาดพระเครื่อง”ที่เกี่ยวเนื่องใน พ.ศ. ๒๕๕๐ นี้สูงกว่า ๒.๒ หมื่นล้านบาท และธุรกิจเหล่านี้ยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งต่างจากเดิมที่อัตราการขยายตัวของธุรกิจนี้จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ ภาวะเศรษฐกิจ โดยคาดว่าตลาดพระจะยังมีอัตราขยายตัวเฉลี่ยสูงถึงร้อย ๑๐-๒๐ ต่อปี
อย่างไรก็ตาม”ตลาดพระ”จากกระแสความนิยมในองค์จตุคาม-รามเทพที่เพิ่มขึ้น อย่างมากและต่อเนื่องมาโดยตลอดในช่วง ๕ เดือนของ พ.ศ. ๒๕๕๐ มีการจัดสร้างองค์จตุคาม-รามเทพแล้วประมาณ ๓๐๐ รุ่น บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ตลอดทั้ง พ.ศ.๒๕๕๐ มีการจัดสร้างองค์จตุคาม-รามเทพประมาณ ๖๕๐ รุ่น มีเม็ดเงินสะพัดประมาณ ๔ หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากที่เคยประมาณการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ประมาณร้อยละ ๘๑ (เดิมประมาณการไว้ที่ ๒.๒ หมื่นล้านบาท) เนื่องจากผู้สร้างจากหลากหลายวงการธุรกิจต่างหันมาสร้างองค์จตุคามรามเทพ จนทำให้”ตลาดพระเครื่อง” ปริมาณการสร้างองค์จตุคามรามเทพเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่ไม่เคย ปรากฏมาก่อนในวงการพระเครื่องและวัตถุมงคล ส่งผลต่อเม็ดเงินสะพัดในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดสร้าง และค่าใช้จ่ายในการจัดสร้างองค์จตุคามฯ เมื่อเทียบระหว่างช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐ นั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน
หลังจากที่กระแสความนิยมจตุคามรามเทพซบเซาตั้งแต่ช่วงกลาง พ.ศ. ๒๕๕๐ “ตลาดพระเครื่อง”และทิศทางของ วงการพระเครื่อง ใน พ.ศ. ๒๕๕๑ ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากกระแสจตุคามรามเทพซบเซา นับว่าอยู่ในความสนใจของผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดพระเครื่อง-วงการพระเครื่องเป็นอย่างยิ่ง บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงดำเนินการสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการพระเครื่อง เพื่อสรุปทิศทางของวงการพระเครื่องในพ.ศ. ๒๕๕๑ และแนวโน้มในอนาคต ซึ่งพอจะสรุปได้ว่าตลาดพระเครื่องยังคงมีแนวโน้มทรงตัวเช่นเดียวกับในช่วง ครึ่งหลังของ พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยที่อัตราการเติบโตของตลาดพระเครื่องจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากไม่ได้รับอานิสงส์จากกระแสเฟื่องฟูขององค์จตุคามรามเทพ รวมทั้งยังไม่มีกระแสพระเครื่องหรือวัตถุมงคลใหม่ที่จะสร้างแรงหนุนให้วงการ
พระเครื่องมีการขยายตัวอย่างก้าวกระโดดเช่นเดียวกับองค์จตุคามรามเทพในช่วง ระยะ ๒ ปีที่ผ่านมา
ในพ.ศ. ๒๕๕๑ “ตลาดพระเครื่อง”ส่วนใหญ่จะเป็นการเช่าบูชาทั้งพระเครื่องรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม ผู้จัดสร้างพระเครื่องก็ต้องมีการปรับตัว เนื่องจากต้องเผชิญกับต้นทุนการจัดสร้างที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจต่อเนื่องในวงการพระเครื่องซึ่งเคยได้รับอานิสงส์จากกระแสเฟื่องฟูขององค์จตุคามรามเทพก็ต้องมีการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางของ”ตลาดพระ” ธุรกิจพระเครื่องที่มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน ซึ่งบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่ากระแสเงินสะพัดในวงการพระเครื่องยังอยู่ในระดับ ๔ หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับใน พ.ศ. ๒๕๕๐ เนื่องจากยังคงมีการเช่าพระเครื่องอื่นๆ ทั้งพระเกจิ และพระใหม่ โดยราคาของพระเครื่องยังคงมีการปรับตัวสูงขึ้น